เทคนิคเขียนเรซูเม่ให้ได้งาน
หากคุณกำลังสมัครงานกับบริษัทชั้นนำ บริษัทจัดหางาน หรือบริการ HR มืออาชีพ การมี “เรซูเม่ที่ดี” คือใบเบิกทางสู่โอกาสที่ดีกว่า ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ต้อง ตรงประเด็น, มีเนื้อหากระชับ, และ ถูกใจระบบ ATS (Applicant Tracking System) ที่องค์กรนิยมใช้คัดกรอง เรามาเจาะ 5 เทคนิคเด็ดที่ช่วยให้คุณ “เขียนเรซูเม่ให้ปัง” และโดดเด่นเหนือผู้สมัครคนอื่นได้จริง!
1. เริ่มต้นด้วยสรุปโปรไฟล์ที่ชัดเจนและกระชับ
เปิดเรซูเม่ด้วย Summary หรือ Professional Profile ที่สรุปตัวคุณแบบตรงประเด็น เช่น ประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง, ความถนัดเฉพาะทาง หรือเป้าหมายในการทำงาน
ใช้คำที่เชื่อมโยงกับงานที่สมัคร เช่น “เชี่ยวชาญการบริหารทีมขาย” หรือ “มีประสบการณ์ในธุรกิจบริการ HR และจัดหางาน”
2. ใช้ Keyword ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงาน
บริษัทส่วนใหญ่มักใช้ระบบ ATS สแกนเรซูเม่โดยอัตโนมัติ คุณจึงควรแทรก คีย์เวิร์ด (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร หรือ Skill ที่จำเป็นต่อทักษะนั้นๆ เช่น Communication, Product Knowledge, Adaptability & Resilience, Customer Service Mindset เป็นต้น
เคล็ดลับ: ลองดูรายละเอียดงาน แล้วหยิบ Keyword มาใช้ในประสบการณ์หรือทักษะของคุณ
3. แสดงผลลัพธ์ในเชิงตัวเลข
แทนที่จะบอกว่า "ดูแลทีมขาย" ให้เขียนว่า “บริหารทีมขาย 8 คน ทำยอดเติบโต 150% ภายใน 6 เดือน เพราะตัวเลขจะช่วยให้ HR มองเห็นความสามารถของคุณชัดเจนขึ้น
4. ปรับ Resume ให้เหมาะกับตำแหน่งที่สมัคร
อย่าทำเรซูเม่แบบหว่านแห! แต่ให้ปรับแต่ละฉบับให้เหมาะกับตำแหน่งนั้น ๆ โดยเฉพาะ ทักษะ (Skills) และ ประสบการณ์ ที่เกี่ยวข้อง
เช่น ถ้าสมัครกับบริษัท Tech, Ecommerce ควรเน้นทักษะเกี่ยวกับ “การวิเคราะห์ข้อมูล", "การใส่ใจลูกค้า (Customer-Centric)" , "แนวคิดแบบเติบโต (Growth Mindset)" หรือ “ทักษะการแก้ปัญหา”
5. หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ทำให้ Resume ไม่ผ่าน
อย่าทำให้เรซูเม่ของคุณ “ตกรอบแรก” ด้วยข้อผิดพลาดเล็กๆ เช่น
❌ ใช้อีเมลไม่ทางการ (เช่น nongployzaa@hotmail.com)
❌ ใส่ข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็น เช่น น้ำหนัก/ส่วนสูง
❌ มีคำผิด หรือใช้รูปแบบฟอนต์หลากหลายเกินไป
ความแตกต่างระหว่าง Resume กับ CV *รู้ไว้ก่อนเขียน
• Resume: เอกสารสั้น 1 หน้า สรุปประสบการณ์เฉพาะที่เกี่ยวกับตำแหน่ง
• CV: เอกสารละเอียด ใช้สมัครงานวิชาการ เช่น ตำแหน่งอาจารย์หรือนักวิจัย
✅ หากสมัครผ่านบริษัทจัดหางานทั่วไปในไทย ให้ใช้ Resume จะเหมาะสมที่สุด
ตัวอย่างโครงสร้าง Resume ที่ HR ชอบ
1. ชื่อ–นามสกุล และช่องทางติดต่อ (ไม่ต้องใส่วันเกิด/น้ำหนัก)
2. Professional Summary
3. ประสบการณ์ทำงาน (เรียงจากล่าสุด)
4. ทักษะ (แบ่งเป็น Hard/Soft Skill)
5. การศึกษา
6. ผลงานเด่น / โครงการสำคัญ
7. งานอาสาสมัครหรือกิจกรรมนอกเวลา (หากมี)
พร้อมจะได้งานเร็วขึ้นไหม?
© 360 Quality Management Co.,Ltd. All Rights Reserved.