9 G Tower Grand Rama 9, Huaykwang, Bangkok, 10310 (+66)020963546 talent@360qm.co.th

ข่าวสารและบทความ

หน้าแรก ข่าวสารและบทความ
หมดไฟ หรือแค่เบื่อ? รู้ทันสัญญาณก่อนใจพังไปกับงาน

หมดไฟ หรือแค่เบื่อ? รู้ทันสัญญาณก่อนใจพังไปกับงาน

หมดไฟ หรือแค่เบื่อ? รู้ทันสัญญาณก่อนใจพังไปกับงาน

ในยุคที่ชีวิตการทำงานหมุนเร็วไม่แพ้โลกออนไลน์ คำว่า "หมดไฟ" หรือ Burnout กลายเป็นสิ่งที่พนักงานจำนวนมากเผชิญ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่เคยหลงใหลในงานของตัวเอง แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกเฉยชา เบื่อหน่าย หรือไม่อยากลุกจากเตียงไปทำงาน ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหากับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือองค์กร แล้วอาการเหล่านี้คือ "หมดไฟ" จริง ๆ หรือแค่ "เบื่อ" กันแน่?

ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจตัวเองผ่านคำถามง่าย ๆ พร้อมทั้งแนะนำแนวทางรับมืออย่างสร้างสรรค์ โดยไม่ต้องรีบร้อนลาออก หรือฝืนใจตัวเองจนสุขภาพพัง พร้อมวิเคราะห์ว่านี่คือ "หมดไฟในการทำงาน" หรือแค่ความรู้สึกเบื่องานแบบชั่วคราว


 Burnout

หมดไฟ vs. แค่เบื่อ: แยกให้ออกก่อนพลาด

1. อาการหมดไฟ (Burnout) คืออะไร?

หมดไฟในการทำงานไม่ใช่แค่การรู้สึกเบื่อ แต่คือภาวะที่ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าสะสม จนทำให้หมดพลังจะทำสิ่งต่าง ๆ มักมาพร้อมกับอาการ: รู้สึกเหนื่อยเรื้อรัง แม้นอนเต็มอิ่ม ขาดแรงจูงใจ ไม่อยากทำอะไรเลย แม้แต่งานที่เคยชอบ รู้สึกไร้ค่า ไม่เห็นประโยชน์ของงานที่ทำ ประสิทธิภาพการทำงานลดลงชัดเจน เริ่มมีอาการทางร่างกาย เช่น ปวดหัว นอนไม่หลับ หรือเครียดบ่อย ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณหมดไฟที่ไม่ควรมองข้าม

2. แล้วอาการ "เบื่อ" ล่ะ เป็นแบบไหน?

เบื่องานอาจเกิดขึ้นชั่วคราว มักสัมพันธ์กับความจำเจ หรือการขาดแรงกระตุ้น เช่น: รู้สึกว่างานไม่มีความท้าทาย ไม่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่มานาน รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าในที่ทำงาน ขาดแรงบันดาลใจระยะสั้น แต่ยังมีพลังจะทำกิจกรรมอื่น ๆ

สรุปง่าย ๆ คือ หากคุณยังมีพลังใจ มีเวลาไปทำสิ่งที่ชอบนอกเวลางาน และกลับมารู้สึกดีขึ้น อาจแค่เบื่อ ไม่ได้หมดไฟในการทำงานแบบแท้จริง


วิธีรับมือเมื่อเริ่มรู้ตัวว่า "ใจไม่เหมือนเดิม"

1. ตั้งเวลาเช็กอินกับตัวเอง

ลองเขียนไดอารี่สั้น ๆ ทุกวันว่า วันนี้รู้สึกอย่างไรกับงาน

มีสิ่งใดที่ทำให้คุณเหนื่อยหรือเบื่อเป็นพิเศษ เพราะนี่อาจเป็นจุดเริ่มของ burnout คืออะไร

2. เปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน

ปรับโต๊ะทำงานใหม่ หาแสงธรรมชาติ หรือฟังเพลงเบา ๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย

ขอ Work from Home หรือเปลี่ยนหน้าที่ชั่วคราว หากเป็นไปได้ เพื่อลดความเสี่ยงของสัญญาณหมดไฟในระยะยาว

3. พูดคุยกับหัวหน้าหรือ HR อย่างตรงไปตรงมา

บอกความรู้สึกโดยไม่กล่าวโทษ แต่อธิบายว่าอยากมีโอกาสเรียนรู้หรือเปลี่ยนบทบาทบ้าง

องค์กรที่ดีมักพร้อมช่วยเหลือ ไม่ใช่ผลักไส เพราะสุขภาพจิตคนทำงานมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ

4. หาเวลาพักจริง ๆ (ไม่ใช่แค่เปลี่ยนที่ทำงาน)

ลองลาหยุดสั้น ๆ ไปรีเฟรชตัวเอง อาจได้มุมมองใหม่กลับมา

ทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับงานเลย เช่น ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร หรือเล่นกีฬา ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตคนทำงานได้เป็นอย่างดี

5. หาเพื่อนหรือที่ปรึกษาในการพูดคุย

ไม่ต้องแบกรับทุกอย่างคนเดียว บางครั้งการพูดออกมาทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น และอาจทำให้พบว่าคุณยังไม่จำเป็นต้องอยากลาออกจากงาน


แล้วเมื่อไรควรลาออกจริงๆ ?

หากคุณลองทุกทางแล้ว แต่ยังรู้สึกหมดพลัง ไม่อยากพัฒนา ไม่อยากเรียนรู้ และเริ่มกระทบกับสุขภาพจิตหรือร่างกายอย่างต่อเนื่อง การลาออกอาจเป็นทางเลือกที่ "ใช่" ในเวลานั้น

แต่ก่อนตัดสินใจ ควรมั่นใจว่าคุณไม่ได้หนีปัญหา แต่กำลังเลือกทางใหม่ที่ดีต่อชีวิตและจิตใจมากกว่า


ความรู้สึกเหนื่อย เบื่อ หรือหมดไฟ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เงินเดือนทุกคน ไม่ผิดที่คุณรู้สึกแบบนั้น แต่สำคัญที่ "คุณจะจัดการกับมันอย่างไร"

อย่าเพิ่งรีบลาออกเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ลองหยุด ฟังใจ และให้โอกาสตัวเองได้พักบ้าง

เพราะหากเป็นเพียงแค่เบื่องาน ยังมีทางฟื้นพลังกลับมาได้เสมอ ถ้าใจยังไม่ไหวจริง ๆ ค่อยหาทางเดินใหม่อย่างมีสติ เพราะอยากลาออกจากงานควรมาจากการตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ไม่ใช่จากความรู้สึกชั่ววูบเพียงช่วงใดช่วงหนึ่ง เพราะงานที่ใช่ จะไม่ทำร้ายใจคุณในทุก ๆ วัน


เพราะ “หมดไฟ” ไม่ได้แปลว่าคุณไม่เก่ง แค่อาจยังไม่เจองานที่ "จุดไฟ" ให้คุณอีกครั้ง
คลิกสมัครผ่าน 360QM หรือ JobSync เพื่อเริ่มต้นเส้นทางใหม่
แบบที่ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องทน และไม่ต้องรอจนใจพัง เพราะงานดี ๆ ไม่ควร “ดูดพลัง” แต่ควร “เติมพลัง” ในทุกวัน

ติดต่อเรา

9 G Tower Grand Rama 9, 31 FL. North Wing, Rama 9 Rd. Huaykwang, Bangkok, 10310

talent@360qm.co.th

(+66)020963546

© 360 Quality Management Co.,Ltd. All Rights Reserved.

1